ความเชื่อนั้นเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ยากมากหากว่าเกิดความเชื่อขึ้นในสังคมใด สังคมหนึ่งแล้ว เช่นเดียวกันสังคมไทยที่มีความเชื่อในเรื่องของคุณไสยต่าง ๆ มาอย่างยาวนาน และ จากอดีตจนถึงปัจจุบันเองก็มีความเชื่อในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน และยังไม่มีการลืมเลือน หรือ หายไปไหนเลยแม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปแล้วก็ตามดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความเชื่อเรื่องของคุณไสยต่าง ๆ ที่ผ่านกาลเวลามานานขนาดไหน คนไทยเราก็ยังเชื่อกันอยุ่เสมอ
การสักยันต์
การสักยันต์นั้นเรียกว่าเป็นความเชื่อที่อยู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน และ มีอาจารยสักยันต์ดัง ๆ มากมาย โดยการสักยันต์นั้นคือ การสักยัน์ หรือ การสักรูปใดรูปหนึ่ง ลงไปในร่างกาย โดยมีจุดดประสงค์หลักในการสักยันต์ทางคุณไสยเพื่อ แคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน โดยที่รูปแบบลายแต่ละลายจะให้สรรพคุณที่แตกต่างกันซึ่งการสักยันต์นั้นมีหลากหลายยันต์อย่างมากที่นิยมสักกัน แต่หนึ่งในยันต์ขึ้นชื่อที่ไม่ว่าผู้หญิง หรือ ผู้ชายจะต้องสักกันอย่างแน่นอน นั้นคือ “เก้ายอด” ยันต์ที่มีสรรพคุณครอบคลุมในหลาย ๆ ด้าน
การทำเสน่ห์
อีกหนึ่งการความเชื่อที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานนั้นคือ “การทำเสน่ห์” เองก็เป็นหนึ่งในความเชื่อมาอย่างยาวนานไม่แพ้กัน เนื่องงจากว่าการทำเสน่ห์นั้นจะทำให้คนที่เรารักนั้น หันมามองเรา ชอบเรา รักเรา แต่แน่นอนว่าการทำเสน่ห์นั้นก็มีทั้งของจริง ของปลอม ซึ่งในกาทำเสน่ห์เองก็มีความเชื่อมาอย่างยาวนาน โดยการทำเสน่ห์นั้นหากให้เป็นรายลักอักษรให้เห็ได้ชัดเลยนั้นคือ ในช่วง พ.ศ 2329 ที่พระสุนทรโวหาร(ภู่) หรือ ที่เราคนในปัจจุบันเรียกว่า สุนทรภู่ ได้มีการนำเรื่องของการทำเสน่ห์เข้ามาในการแต่ง “ขุนแผน” หนึ่งในวรรณคดีไทยเรื่องดังที่มีการนำเรื่องของการทำเสน่ห์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เครื่องราง ของขลังต่าง ๆ
อีกหนึ่งความเชื่อที่มีอย่างยาวนาน นั้นคือในเรื่องของ “เครื่องรางของขลัง” ซึ่งมีความเชื่อในทางไสยศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำให้เงินทองไหลมา เทมา การเรียกทรัพย์ต่าง ๆ หรือ เพิ่มโชคลาภให้กับตัวเอง หรือ แม้แต่การทำให้คนรักคนหลง เองก็มีการใช้เครื่องรางของขลังด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในเรื่องของความเชื่อของรางของขลังนั้นถ้าให้เห็นภาพที่สุดก็เป็นชาวบ้านบางระจัน ที่มีการับผ้ายันต์ และ เสื้อสีแดงที่ลงอาคมจนทำให้ต่อสู้ได้ยาวนานขึ้น หรือ ขุนพันธ์อีกหนึ่ง ตำรวจฝีมือดี ที่มีการพกเครื่องรางของขลังต่าง ๆไว้เพื่อกำจัดโจรร้าย
ดังนั้นในเรื่องของความเชื่อนั้นขึ้นอยู่กับตัวบุคลเองด้วยนะครับ ที่ทำให้เรื่องของความเชื่อต่าง ๆ นั้นยังมีในปัจจุบันส่วนใครที่จะพยายามคิดจะพิสูจน์ว่ามีจริงหรือไม่ การไม่ก้าวก่ายเรื่องพวกนี้นั้นจะดีกว่านะครับ เพราะว่าเป็นเรื่องของความเชื่อนะครับ ดังนั้นเรื่องพวกนี้จึงอยู๋ในเรื่องของความเชื่อส่วนบุคลนะครับ